วันนี้จะพาขึ้นไปแอ่วเมืองเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ กับการเที่ยวที่สุดแสนจะประทับใจทั้งบรรยากาศและความน่ารักของผู้คนที่นี่ ซึ่งการมาเที่ยวทางภาคเหนือจะบอกก่อนว่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศที่ภาคอื่นๆ ไม่สามารถมีได้อย่างภาคเหนือ อากาศที่หนาวจับใจจนควันออกปากทำให้รู้ว่าได้มาถึงแล้วจริงๆ แต่นอกจากอากาศที่หนาวเย็นที่จะเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวจะต้องพบเจอแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่พูดกันว่า ถ้าไม่ได้ขึ้นไปกราบไหว้จะถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดเชียงใหม่นั่นก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ นั่นเอง
ไปไหว้สักการะ วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ
สำหรับการเดินทางมาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เมื่อเรามาถึงตัวจังหวัดเชียงใหม่ เราสามารถเดินทางมาบนถนนห้วยแก้ว ซึ่งถ้าขับมาเรื่อยๆจะผ่านอนุสาวรีย์ครูบาวิศรีชัย และขับขึ้นเขาที่คดเคี้ยวซึ่งมีระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึงวัด แต่เมื่อมาถึงวัดแล้วจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 300 ขั้น ซึ่งจะบอกว่า เหนื่อยมากเหมือนกันนะ แต่พอเดินขึ้นไปถึงแล้วก้หายเหนื่อยเลยล่ะ เพราะบรรยากาศข้างบนค่อนข้างดีเลยทีเดีว แถมยังไม่เห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดเชียงใหม่แบบว่า ฟินเลยล่ะ
หากใครที่จะมาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สามารถขึ้นมาเที่ยวได้ทุกวันเลยนะ โดยภายในวัดพระธาตุแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงเชียงแสนที่เป็นศิลปะของทางล้านนาที่สวยสดงดงาม แต่ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากมาในช่วงที่มีการจัดประเพณีเตียวขึ้นดอยก็ให้มาในช่วงวันวิสาขบูชาของทุกปี เพราะจะได้มาสรงน้ำพระธาตุด้วยนะ โดยจะมีการแห่น้ำที่ในขบวนจะมีทั้งพระสงฆ์ สามเณร และประชาชนมากมายที่ตั้งใจมาร่วมขบวนเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตปีละครั้ง
ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดสนใจที่จะมาก็อยากให้มาเที่ยวช่วงหน้าหนาวกันนะ เพราะช่วงนั้นต้นไม้ใบหญ้าที่นี่จะสวยมาก จะทำให้ทุกคนสนุกไปกับความสวยงามระหว่างการเดินทางอย่างแน่นอน อ่อ ลืมบอกไปว่า สามารถพาญาติผู้ใหญ่มาเที่ยวได้นะ ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นไปไหว้พระธาตุไม่ได้ เพราะตอนนี้ที่นี่มีรถรางไฟฟ้าไว้บริการแล้วด้วย โดยจะเปิดให้บริการเวลาหกโมงเช้าถึงหกโมงเย็นของทุกวัน ในราคาแค่ 20 บาทเท่านั้น หากวันนี้ยังหาที่เที่ยวในช่วหน้าหนาวไม่ได้ก็อยากให้ตัดสินใจมาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รับรองว่า ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน
หากคุณไม่อยากพลาดข้อมูลการเที่ยวทะเล หรือแนะนำ ที่เที่ยวบ้านแม่กำปอง บรรยากาศดีอยู่ใกล้ธรรมชาติ ที่คุณไม่ควรพลาด อย่าลืมติดตามได้เพิ่มเติมอีกที่ somewhere-in-the-middle.com